สฟิงซ์: อสูรกายในตำนานกรีก
สฟิงซ์ในตำนานกรีกเป็นอสูรกายที่มีร่างกายผสมระหว่างสิงโต นกอินทรี และมนุษย์ ส่วนหัวเป็นของหญิงสาว มีปีกของนกอินทรีและลำตัวของสิงโต สฟิงซ์เป็นสัญลักษณ์ของความลึกลับ ความยิ่งใหญ่ และอันตราย ในตำนานกรีก สฟิงซ์จะยืนเฝ้าอยู่หน้าประตูเมืองธีบส์ และตั้งปริศนาให้ผู้ที่ผ่านไปมา ผู้ใดตอบผิดก็จะถูกสฟิงซ์สังหาร แต่หากมีใครตอบถูก สฟิงซ์จะยอมเปิดทางให้และทำลายตัวเองในที่สุด
ปริศนาของสฟิงซ์
สฟิงซ์ในตำนานมักถูกกล่าวถึงว่าชอบตั้งปริศนาเพื่อท้าทายความสามารถและสติปัญญาของผู้คน ปริศนาที่โด่งดังที่สุดที่สฟิงซ์ใช้ถามผู้คนคือ:
"สิ่งใดที่เดินด้วยขาทั้งสี่ในตอนเช้า เดินด้วยขาสองในตอนกลางวัน และเดินด้วยขาสามในตอนเย็น?"
ปริศนานี้ได้รับการตีความว่าเป็นคำถามเกี่ยวกับวัฏจักรของชีวิตมนุษย์ คำตอบของปริศนาคือ "มนุษย์" โดยเชื่อมโยงกับช่วงเวลาชีวิตของมนุษย์ที่ในวัยเด็กยังต้องคลานเป็นขาทั้งสี่ ในวัยผู้ใหญ่เดินด้วยสองขา และเมื่อแก่ชราต้องใช้ไม้เท้าช่วยพยุงเดินเป็นเสมือนขาที่สาม
เอดิปัส: ฮีโร่ผู้กล้าหาญแต่โชคชะตาโหดร้าย
เอดิปัสเป็นหนึ่งในฮีโร่กรีกที่มีชื่อเสียง ซึ่งเป็นโอรสของกษัตริย์ไลอัสและราชินีโจคัสตาแห่งเมืองธีบส์ โชคชะตาของเอดิปัสถูกทำนายไว้ตั้งแต่แรกเกิดว่าจะฆ่าพ่อและแต่งงานกับแม่ของตน ด้วยความกลัวในคำทำนาย พ่อแม่ของเขาจึงส่งเขาไปทิ้งเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้คำทำนายเป็นจริง แต่โชคชะตากลับนำพาให้เอดิปัสรอดชีวิตและถูกเลี้ยงดูโดยกษัตริย์โพลีบัสและราชินีเมโรปของโครินธ์
เมื่อเอดิปัสเติบโตขึ้น เขาก็ได้ทราบคำทำนายเกี่ยวกับโชคชะตาของตนเอง แต่เขาไม่รู้ว่าพ่อแม่ที่เลี้ยงดูเขามานั้นไม่ใช่พ่อแม่แท้ๆ ด้วยความหวาดกลัว เอดิปัสจึงตัดสินใจออกจากเมืองโครินธ์เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ทำร้ายพ่อแม่ แต่โชคชะตาได้พาเขากลับไปยังเมืองธีบส์ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของเขาเอง
การเผชิญหน้ากับสฟิงซ์
เมื่อเอดิปัสเดินทางมาถึงเมืองธีบส์ เขาพบกับสฟิงซ์ที่ตั้งปริศนาไว้ตรงทางเข้าเมือง ไม่มีใครสามารถตอบปริศนาของสฟิงซ์ได้ และเมืองธีบส์ก็ต้องทนทุกข์จากการถูกสฟิงซ์ควบคุม เอดิปัสสามารถไขปริศนาได้อย่างถูกต้อง ซึ่งทำให้สฟิงซ์ตกใจและทำลายตัวเองในที่สุด การไขปริศนาของเอดิปัสไม่เพียงแต่ทำให้เขาได้รับเกียรติและความเคารพจากชาวเมืองธีบส์เท่านั้น แต่ยังทำให้เขาได้รับตำแหน่งกษัตริย์แห่งธีบส์และแต่งงานกับราชินีโจคัสตา ซึ่งเป็นมารดาแท้ๆ ของเขาโดยที่เขาไม่รู้
โศกนาฏกรรมแห่งเอดิปัส
แม้ว่าเอดิปัสจะกลายเป็นกษัตริย์ที่ชาวเมืองเคารพนับถือและปกครองธีบส์ด้วยความยุติธรรม แต่โชคชะตาก็ยังไม่ละเว้นเขา ความจริงเกี่ยวกับคำทำนายได้ถูกเปิดเผยในภายหลังเมื่อเอดิปัสค้นพบว่าผู้ที่เขาฆ่าตายระหว่างการเดินทางคือกษัตริย์ไลอัสซึ่งเป็นพ่อแท้ๆ ของเขา และราชินีที่เขาแต่งงานด้วยก็คือแม่แท้ๆ ของเขา โศกนาฏกรรมนี้ทำให้เอดิปัสสำนึกผิดอย่างใหญ่หลวง และเมื่อความจริงถูกเปิดเผย ราชินีโจคัสตาได้ฆ่าตัวตายด้วยความโศกเศร้า เอดิปัสก็ตัดสินใจทำโทษตัวเองโดยการแทงตาตนเองจนตาบอดและหนีออกจากเมืองธีบส์ไปใช้ชีวิตเป็นผู้พเนจรตลอดกาล
ความหมายเชิงสัญลักษณ์ของสฟิงซ์และเอดิปัส
เรื่องราวของสฟิงซ์และเอดิปัสไม่ใช่แค่ตำนานที่บันทึกไว้เพื่อให้เป็นเรื่องเล่าของยุคกรีกโบราณ แต่ยังสะท้อนถึงสัญลักษณ์และบทเรียนที่ลึกซึ้งอีกด้วย สฟิงซ์ในฐานะอสูรกายที่ตั้งปริศนาเป็นสัญลักษณ์ของความท้าทายและความรู้ ในขณะที่เอดิปัสเป็นตัวแทนของความกล้าหาญ ความพยายาม และการต่อสู้กับโชคชะตา แม้ว่าเขาจะสามารถเอาชนะสฟิงซ์ได้และกลายเป็นฮีโร่ที่ชาวเมืองยกย่อง แต่ก็ไม่สามารถหนีจากโชคชะตาที่กำหนด
ทัวร์อียิปต์ เปิดประสบการณ์การเดินทางในดินแดนฟาโรห์